เรื่องของพลังงาน

 


ตอน แนวทางแก้ไขปัญหาและการซ่อมแซมระบบเซลล์แสงอาทิตย์

   

จะว่าไปแล้วคงไม่มีใครอยากให้เกิดปัญหากับระบบเซลล์แสงอาทิตย์ แต่ในที่สุดปัญหาก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน การได้รู้ข้อมูลที่เป็นแนวทางแก้ไขในเวลาเกิดปัญหารวมถึงการซ่อมแซม เพื่อให้ระบบกลับมาทำงานได้อีก จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ใช้งานระบบเซลล์แสงอาทิตย์และนี่คือบทส่งท้ายจาก "เส้นทางสู่พลังงานสีเขียว"

ระบบเซลล์แสงอาทิตย์แม้จะได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งาน ตลอดจนมีการติดตั้งและบำรุงรักษาอย่างถูกต้องก็อาจเกิดปัญหาได้ทั้งสิ้น เรารวบรวมมาได้ 3 ประเภทที่แตกต่างกันไป

ประเภทของปัญหา

สาเหตุของปัญหา

วิธีการแก้ไข

1. ระบบทั้งหมดไม่ทำงาน
    - ถ้าแบตเตอรี่จ่ายประจุไฟฟ้าแสดงว่า
 เกิดปัญหาระหว่าง แบตเตอรี่กับแผง


๏ แผงเสียหรือต่อสายไฟของแผงไม่ดี

วัดแรงดันจากแผง ถ้าแรงดัน < 12 V ให้เปลี่ยนแผงนั้นออก ทำความสะอาดขั้วและสายไฟ แล้วจึงต่อแผงเข้าไปให้ถูกต้อง
๏ ปัญหาจากเครื่องควบคุม วัดแรงดันจุดเชื่อมต่อแบตเตอรี่และจุดเชื่อมต่อแผงที่เครื่องควบคุมในขณะมีแสงอาทิตย์ ถ้าแรงดันที่แบตเตอรี่ < 13.5 V และแรงดันที่แผง > 14 V ให้เปลี่ยนเครื่องควบคุม

๏ การต่อสายไฟระหว่างเครื่องควบคุมกับแบตเตอรี่

วัดแรงดันที่ขั้วแบตเตอรี่และขั้วแบตเตอรี่ที่เครื่องควบคุม ถ้าแรงดันที่เครื่องควบคุมต่ำกว่าที่ขั้วแบตเตอรี่ > 0.5 V ให้ปลดสายไฟ ถอดคอนเนกเตอร์ ทำความสะอาดจุดเชื่อมต่อและสายไฟ เปลี่ยนสายไฟในคอนเนกเตอร์และขั้วสายไฟ แล้วขันจุดเชื่อมต่อให้แน่น
๏ ปัญหาจากแบตเตอรี่ ตรวจสอบทุกเซลล์ของแบตเตอรี่ ถ้าค่าที่อ่านได้แตกต่างกันมาก แบตเตอรี่อาจมีปัญหา ถ้าค่าที่อ่านได้ใกล้เคียงกันแต่มีค่าต่ำมาก ให้ต่อแผงกับแบตเตอรี่โดยตรงไว้ 3-4 วัน ถ้าแบตเตอรี่ประจุไฟฟ้า ให้ต่อเข้าไปในระบบอีกครั้งและตรวจสอบการทำงาน ถ้าไม่ทำการประจุไฟฟ้า ให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ ตรวจสอบแผง, เครื่องควบคุม, การต่อสายไฟและปลดสายไฟมาทำความสะอาด แล้วจึงต่อเข้าไปใหม่
   - ถ้าแบตเตอรี่ประจุไฟฟ้าแสดงว่าปัญหาอยู่ที่การต่อสายไฟระหว่างแบตเตอรี่กับอุปกรณ์ไฟฟ้า ๏ ฟิวส์หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์ ถ้าพบว่าเปิดวงจรอยู่ แสดงว่าเกิดการลัดวงจร ให้จัดการกับสายไฟที่ลัดวงจรหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีปัญหา เปลี่ยนฟิวส์และตั้งค่าเซอร์กิตเบรกเกอร์ใหม่
๏ การต่อสายไฟระหว่างเครื่องควบคุมกับอุปกรณ์ไฟฟ้า วัดแรงดันจุดเชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่เครื่องควบคุมการจ่ายประจุ ถ้าแรงดันที่อุปกรณ์ไฟฟ้าเกือบเท่ากับแรงดันแบตเตอรี่ ให้ทำความสะอาดจุดเชื่อมต่อ เปลี่ยนสายไฟที่เสียหายหรือมีขนาดไม่เหมาะสม
๏ ปัญหาจากสวิตช์ ใช้สายไฟต่อผ่านขั้วสวิตช์ ถ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าทำงาน แสดงว่าสวิตช์เสีย ให้เปลี่ยนสวิตช์
๏ ปัญหาจากเครื่องควบคุม วัดแรงดันขั้วอุปกรณ์ไฟฟ้าและขั้วแบตเตอรี่ที่เครื่องควบคุม ถ้าแรงดันที่ขั้วอุปกรณ์ไฟฟ้าต่ำกว่าที่ขั้วแบตเตอรี่มาก ให้เปลี่ยนเครื่องควบคุม
2.อุปกรณ์ไฟฟ้าบางชิ้นทำงานแต่บางชิ้นไม่ทำงาน ๏ การใช้สวิตช์แบบติดผนัง ใช้สายไฟต่อขั้วสวิตช์เข้าด้วยกัน ถ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าทำงาน ให้เปลี่ยนสวิตช์
๏ อุปกรณ์ไฟฟ้าต่อไม่ถูกต้อง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าถูกต่อสายไฟไว้อย่างถูกต้อง
๏ ปัญหาจากอุปกรณ์ไฟฟ้า วัดแรงดันแบตเตอรี่ ถ้าค่าต่ำ อาจเกิดจากเครื่องควบคุม ถ้าแรงดัน > 12 V ใช้สายไฟต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากับแบตเตอรี่โดยตรง ถ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ทำงาน ให้ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนออกไป
๏ เครื่องควบคุมการจ่ายประจุทำงานไม่ถูกต้อง วัดแรงดันแบตเตอรี่ ถ้าแรงดัน > 11 V ให้เปลี่ยนเครื่องควบคุม
๏ ขนาดสายไฟเล็กหรือยาวเกินไป ตรวจสอบสายไฟให้แน่ใจว่ามีขนาดและความยาวที่เหมาะสม
๏ จุดเชื่อมต่อหลวมหรือสกปรก ปลดสายไฟออกมาทำความสะอาด รวมถึงขั้วสายไฟ แล้วต่อเข้าไปใหม่และขันให้แน่น
3. ระบบทำงาน แต่พลังงานหมด ๏ ไฟฟ้าจากแผงน้อยเกินไป: อาจเกิดจากมีร่มเงาบัง, แผงเสียหาย, สายไฟเล็ก/ยาวเกินไป, ข้อต่อหลวม/สกปรกและไม่ได้หันแผงไปในทิศทางที่ถูกต้อง ให้แก้ไขตามสาเหตุ เช่น เคลื่อนย้ายสิ่งที่ทำให้เกิดร่มเงา/ย้ายแผงไม่ให้ถูกบัง เปลี่ยนแผงถ้าเสียหาย, ซ่อมแซมสายไฟและหันแผงให้ถูกทิศทาง
๏ เพิ่มจำนวนอุปกรณ์ไฟฟ้าเกินขนาดของระบบ เพิ่มจำนวนแผง, เพิ่มความจุของแบตเตอรี่หรือนำอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เพิ่มออกไป
๏ใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้านานกว่าที่ระบุในตอนแรก เพิ่มจำนวนแผง, เพิ่มความจุของแบตเตอรี่หรือลดเวลาการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าให้เท่ากับที่ออกแบบในตอนแรก
๏ เครื่องควบคุมการประจุปรับค่าไม่ถูกต้อง ใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าน้อยที่สุด 3-4 วันที่มีแสงอาทิตย์ จากนั้นวัดแรงดันขั้วแบตเตอรี่และขั้วสายไฟของแผงที่เครื่องควบคุม ถ้าแรงดันทั้ง 2 ค่าเกือบเท่ากันและมีค่า > 13 V (ระบบ 12 V) หรือ > 26 V (ระบบ 24 V) แสดงว่าเครื่องควบคุมไม่มีปัญหา ถ้าแรงดันของแผงสูงกว่าแบตเตอรี่มากและ > 12.8 V (ระบบ 12 V) หรือ > 25.6 V (ระบบ 24 V) แสดงว่าเครื่องควบคุมอาจถูกตัดออกจากระบบเร็วเกินไปและไม่ยอมให้แบตเตอรี่ประจุไฟฟ้าจนเต็ม ให้เปลี่ยนเครื่องควบคุมและส่งไปซ่อมแซม
๏ เครื่องควบคุมการจ่ายประจุปรับค่าไม่ถูกต้อง ถ้าแบตเตอรี่บ่งชี้ว่ามีแรงดันมากกว่าครึ่งหนึ่งของแรงดันที่ประจุเมื่ออุปกรณ์ไฟฟ้าหยุดทำงาน ให้เปลี่ยนเครื่องควบคุมและส่งซ่อมแซม
๏ แบตเตอรี่เริ่มอ่อนและเก็บไฟฟ้าไม่เพียง พอต่อความต้องการของอุปกรณ์ไฟฟ้า ทดสอบความจุ (Ah) ของแบตเตอรี่ และสังเกตว่าค่าของเซลล์ที่อ่านได้แตกต่างจากเซลล์อื่นมากหรือไม่, แบตเตอรี่อายุการใช้งานมากกว่า 4 ปีหรือไม่ (ถ้าไม่ แสดงว่าจากสาเหตุอื่นในระบบ), ให้แน่ใจว่าไม่มีร่มเงาบังแผงและผู้ใช้ไม่ได้ใช้พลังงานจากระบบเกินกว่าที่ออกแบบไว้ จากนั้นให้เปลี่ยนแบตเตอรี่และดูว่าถ้าหลังจาก 1 เดือนแรก ยังมีปัญหาอีก ต้องตรวจสอบและแก้ไขสาเหตุ
ทีนี้ลองมาดูแนวทางแก้ไขปัญหาหลักๆ ที่จะสามารถนำไปใช้จัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับระบบเซลล์แสงอาทิตย์ได้
1. รู้การทำงานของระบบอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้น เมื่อมีการติดตั้งระบบต้องบันทึกการติดตั้งและการทำงานของแต่ละชิ้นส่วนเอาไว้
2. รู้วิธีการใช้อุปกรณ์และเครื่องมือทดสอบ เพราะบางครั้งผู้ใช้งานอาจต้องทดสอบระบบด้วยตัวเอง
3. เมื่อต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ ให้ตรวจสอบชิ้นส่วนอื่นๆ ของระบบ รวมถึงสายไฟ ให้แน่ใจว่าทำงานอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้แบตเตอรี่ใหม่เสียเร็วก่อนเวลาอันควร
4. เก็บบันทึกการบำรุงรักษาและซ่อมแซมที่สมบูรณ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาเมื่อระบบเกิดปัญหาและจำเป็นต้องแก้ไขปัญหานั้นๆ ให้ระบบสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ


 


ก็ถือว่าครบถ้วนกระบวนความสำหรับ "เส้นทางสู่พลังงานสีเขียว" อันเกี่ยวกับระบบเซลล์แสงอาทิตย์ อยากขอฝากไว้ ช่วยกันคนละไม้ละมือ เราทุกคนมีบทบาทสำคัญในการเลือกใช้พลังงานทางทดแทน ที่จะไม่เป็นการทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้ธรรมชาติย้อนกลับมาทำร้ายเราได้

ที่มาของข้อมูล: PV Solar Photovoltaic Technical Training Manual by Mr. Herbert Wade
ที่มาของภาพ: Leonics, www.alternative-power.com